🏰Batsto หมู่บ้านที่อยู่มายาวนานกว่า 251 ปี
Batsto เป็นหมู่บ้านที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1766 ยาวนานมาจนถึงผู้อยู่อาศัยคนสุดท้ายที่ออกไปจากที่นี่ในปี 1989 ทว่ามันก็ยังคงความสวยงามและเก่าแก่อยู่เสมอ อาคารบ้านช่องต่างๆ นอกจากจะยังคงดูพร้อมใช้งานเหมือนกับมีคนอยู่อาศัยมาตลอดแล้ว ทุกสิ่งก่อสร้างยังคงมีความคลาสสิกและไม่มีความร่วมสมัยเหมือนกับอาคารบ้านเรือนในสมัยนี้แม้แต่น้อย เหมือนกับที่หมู่บ้านนี้เป็นมาตั้งแต่แรก
หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นส่วนหนึ่งของเขตอนุรักษ์แห่งชาติเมือง Pinelands และได้รับการปกป้องโดยกรมคุ้มครองสิ่งแวดล้อม สวนสาธารณะและป่าไม้ของรัฐ จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เมืองนี้ยังคงน่าอยู่เสมอ ปราศจากคนเข้ามารุกราน
ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของสถานที่นี้เริ่มต้นมาจาก Charles Read ช่างตีเหล็กผู้โด่งดังได้เข้ามาสร้างโรงงานเป็นของตัวเองใกล้กับแม่น้ำ Batsto ซึ่งในเวลานั้นพื้นที่โดยรอบเต็มไปด้วยแร่หินต่างๆ ตามธรรมชาติมากมาย
ทรัพยากรที่จำเป็นสามารถหาได้ง่ายมาก น้ำก็ใช้น้ำจากแม่น้ำหรือตามบึงรอบๆ และมีไม้จำนวนมากที่อยู่ในป่าใหญ่ เรียกได้ว่าสิ่งจำเป็นสำหรับการตีเหล็กมีอยู่ที่นี่ทั้งหมด จึงทำให้โรงงานเติบโตได้ดีจนต้องมีลูกจ้างเข้ามาช่วย ซึ่งสิ่งปลูกสร้างเป็นอันดับแรกนอกเหนือจากที่ทำงาน
จึงเป็นบ้านพักอาศัยของคนเหล่านั้น และเป็นจุดเริ่มต้นให้กลายเป็นหมู่บ้านที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ ในตอนแรกที่สร้างเพียงแค่ของใช้ภายในบ้าน พอโรงงานแห่งนี้ค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น John Cox ก็ได้ซื้อโรงงานไป และเปลี่ยนให้เป็นโรงงานผลิตยุทโธปกรณ์ทั้งหลายให้กับกองทัพภาคพื้นทวีปในช่วงปฏิวัติอเมริกา
ต่อมาโรงงานและหมู่บ้านก็ถูกครอบครองโดย William Richards และครอบครัวนี้เข้ามาครอบครองนานกว่า 91 ปี ในช่วงนั้นเองที่พวกเขาได้สร้างเอกลักษณ์และความเป็นอยู่ของที่นี่ให้เป็นอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ ตั้งแต่บ้านเช่ามากมายสำหรับลูกจ้าง และสถานที่อำนวยความสะดวกจัดการทรัพยากรต่างๆ เช่น คอกม้า โรงนา รวมถึงโรงสีข้าว
ทว่าในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 หมู่บ้านนี้ก็ต้องประสบปัญหาความต้องการเหล็กจากผู้ซื้อลดลงอย่างรวดเร็ว เพราะมีการค้นพบถ่านหินในเพนซิลเวเนีย ทำให้ที่นี่หันมาประกอบธุรกิจผลิตแก้ว และเป็นที่รู้จักในเรื่องของหน้าต่างที่ทำจากกระจก แต่เพียงไม่นานหมู่บ้านนี้ก็ต้องประสบกับภาวะล้มละลาย
เจ้าของหมู่บ้านนี้คนสุดท้ายคือ Joseph Wharton เขาเป็นนักอุตสาหกรรมและธุรกิจจากเมืองฟิลาเดลเฟียที่เข้ามาในปี 1876 เขาพยายามที่จะช่วยเหลือหมู่บ้านด้วยทรัพยากรที่มีอยู่โดยรอบ
โดยการพัฒนาสิ่งปลูกสร้างต่างๆ และนำธุรกิจอื่นๆ เข้ามาเสริม เช่น การปลูกแครนเบอร์รี่และการทำป่าไม้
น่าเสียดายที่ทุกอย่างไม่เพียงพอให้หมู่บ้านนี้เอาตัวรอดไปได้ และเมื่อเขาเสียชีวิตไปในปี 1909 บริษัท Girard Trust ก็เข้ามาดูแลที่นี่แทน กระทั่งช่วงปลายยุค 1950 ทางรัฐได้ทำการซื้อที่นี่เอาไว้สำหรับแผนการพัฒนา ทำให้ยังคงมีชาวบ้านจำนวนหนึ่งอาศัยอยู่กันต่อไป แต่ท้ายสุดแล้วก็ไม่อาจมองเห็นอนาคตจากที่แห่งนี้ได้เลย
จนในปี 1989 ผู้อยู่อาศัยคนสุดท้ายย้ายออกไป ทำให้ไม่เหลือผู้อยู่อาศัยอีกเลย และกลายเป็นเหมือนเมืองผีสิงมากกว่าเมืองร้าง เพราะยังคงสภาพเอาไว้ได้และมีผู้เข้าไปเดินเที่ยวมากมาย เพื่อชมความงามของสถานที่ในประวัติศาสตร์และความทรงจำที่ผ่านมานานกว่า 251 ปี ราวกับได้ย้อนเวลากลับไปในอดีต เพราะทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
หากใครที่อยู่สหรัฐอเมริกาหรือได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่อเมริกา ถ้าอยากหาสถานที่สวยๆ มีบรรยากาศที่เงียบสงบเพื่อเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจล่ะก็ ลองไปเยือนที่หมู่บ้านเก่าแก่แห่งนี้กันดูได้
