การพิจารณาเลือกซื้อบ้านนอกจากจะดูจากทำเล ความเชื่อมั่นในตัวผู้ประกอบการ หรือราคาที่น่าสนใจแล้ว อีกกลยุทธ์หนึ่งที่ผู้ประกอบการงัดออกมาใช้คือ “แบบบ้าน” ที่สวย ต้องตาต้องใจยามแรกพบนั่นเอง
จะว่าไปแล้วการเลือกหาบ้านก็ไม่ต่างอะไรกับความรัก แรกเริ่มมักจะตกหลุมรักที่เสน่ห์ภายนอก แต่เมื่อคบกันนานเข้าจึงจะรู้ว่านั่นใช่คนที่ใช่หรือไม่ บ้านก็เช่นกัน บางครั้งคุณอาจจะหลงใหลไปกับแบบบ้านที่ออกแบบมาอย่างทันสมัย แต่พออยู่ ๆ ไปแล้ว แบบบ้านที่คิดว่าดีอาจจะไม่สามารถตอบสนองต่อการใช้งานของคุณก็ได้
ก่อนที่คุณตัดสินใจซื้อบ้าน อยากให้คุณคิด พิจารณาสิ่งต่าง ๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ สัก 5 อย่าง ตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้ เพื่อที่คุณจะได้รู้ว่า แบบบ้านที่คุณถูกใจนั้นจะถูกต้องเหมาะสมกับการใช้ชีวิตของคุณขนาดไหน อย่าลืมว่าโดยปรกติ ชั่วชีวิตหนึ่ง คุณสามารถซื้อบ้านได้แค่หลังเดียว
การจัดพื้นที่ โดยทั่วไปจะสามารถแบ่งได้เป็น 3 โซนนิ่ง สิ่งที่คุณต้องพิจารณาคือมันสนองตอบต่อกิจกรรมของคนในบ้านเพียงใด โซนนิ่งแรกก็คือพื้นที่ใช้สอยสาธารณะ ได้แก่ ห้องรับแขก ส่วนนี้ควรติดโถงเข้าด้านหน้า จะได้ไม่ต้องพาแขกทัวร์ทัศนาจรรอบบ้าน ในบ้านขนาดใหญ่จะแยกส่วนนี้ขาดก็ได้ แต่ในบ้านเล็กควรจัดวางไว้ใกล้ห้องทานข้าว
โซนนิ่งที่ 2 คือห้องกึ่งสาธารณะ คือส่วนของบ้านที่ไม่ได้เป็นความลับมากนัก เช่น ห้องอาหาร ห้องนั่งเล่น ถ้าจะให้ดีทั้ง 2 ห้องนี้ควรอยู่ต่อเนื่องกันเพื่อการใช้ทำกิจกรรมที่ต่อเนื่อง ส่วนห้องครัวนั้น ควรเป็นห้องที่อยู่ทางปลายลมเพื่อที่ว่ากลิ่นจะได้ไม่ไปรบกวนคนในบ้าน
ส่วนสุดท้ายคือห้องส่วนตัว ต้องการความมิดชิด ความเป็นส่วนตัว ห้องนอนที่ดีควรมีช่องเปิดรับลม รับแสงสว่าง ในฤดูร้อนลมจะพัดจากทิศตะวันตกเฉียงใต้หรือใต้ไปทิศเหนือหรือตะวันออกเฉียงเหนือ และจะมีทิศกลับกันในฤดูหนาว เวลาทีคุณจะพิจารณาซื้อบ้านจึงควรคำนึงถึงทิศทางลมในฤดูร้อนเพราะมีระยะเวลานานกว่า
ส่วนทิศทางของแสงนั้น แน่นอนว่าไม่ควรหันไปทางทิศตะวันตกเพราะเป็นทิศที่รับแดดตั้งแต่บ่ายไปถึงเย็นจะทำให้ห้องร้อน สำหรับผู้ตื่นเช้าควรจัดห้องนอนไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อรับแดดเช้า ส่วนคนตื่นสาย จัดห้องนอนไว้ทางทิศเหนือจะดีกว่า
ขนาดพื้นที่ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือจำนวนคนและความจำเป็นในการใช้งาน ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อใช้เป็นหลักในการหาเฟอร์นิเจอร์มาตกแต่งให้มีความพอดี เช่น ห้องรับแขก ถ้าระบุจำนวนแขกไม่ได้ ควรให้ห้องกว้าง ๆ ไว้ก่อน ใช้เฟอร์นิเจอร์ในแบบที่โยกย้ายได้ง่าย ส่วนห้องอาหารยิ่งต้องดูจำนวนคนจะได้รู้ว่าจะใช้โต๊ะในรูปแบบไหน
ห้องครัว ควรจัดเฟอร์นิเจอร์เครื่องใช้ต่าง ๆ ตามลำดับตั้งแต่การนำอาหารเข้าบ้านเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ส่วนห้องนอน ต้องยอมรับว่าไม่ได้มีกิจกรรมแค่การนอนเท่านั้น อาจจะใช้แต่งตัว ใช้ทำงานด้วยเฟอร์นิเจอร์จึงมีมากมาย เพราะฉะนั้นเตียงนอนคงต้องระบุให้แน่ชัดว่าจะใช้นอนกี่คนจะได้ไม่อึดอัดมาก
ช่องทางเดินในบ้าน ต้องพิจารณาให้สอดคล้องกันในแต่ละห้องและควรทำให้ทางเดินในบ้านสั้นเพื่อที่จะเดินจากจุดหนึ่งมายังจุดหนึ่งได้ง่าย มีพื้นที่ใช้สอยมาก ที่สำคัญ ไม่ควรให้ทางเดินในบ้านซับซ้อน วกวน คำนึงถึงการใช้งานด้วย ทางเดินหลัก ๆ ควรจะกว้างหน่อยเพราะใช้บ่อยและบางครั้งอาจจะต้องมีการขนของด้วย
ส่วนบันไดที่ใช้เชื่อมจากชั้นล่างขึ้นชั้นบน ไม่ควรหันไปทางทิศตะวันตกเพราะแสงแดดจะส่องตาเกิดการพลาดพลั้งได้ บันไดที่ดีควรกว้างไม่ต่ำกว่า 1 เมตร ลูกตั้งสูงไม่เกิน 18 เซนติเมตร ลูกนอนไม่น้อยกว่า 27 เซนติเมตร ทำจมูกบันไดด้วยกันการลื่นตก นอกจากนี้จำนวนขั้นบันไดควรจะเป็นเลขคี่ด้วย (ไม่นับชานพัก)
ชัดเจนในสวน พื้นที่สีเขียวเป็นสิ่งสำคัญมากในปัจจุบัน กลยุทธุ์ของผู้ประกอบการจึงอาจจะมีการจัดสวนให้เพื่อเร่งการตัดสินใจซื้อ แต่เหตุผลในการตัดสินใจของคุณควรจะดูให้ชัดเจนว่าคุณต้องการสวนนั้นไว้ใช้ทำอะไร? ใช้งานหรือใช้โชว์ บางครั้งถ้ามีสวนหน้าบ้าน คุณอาจจะไม่ได้ใช้งานเพราะไม่กล้าไปนั่งเล่นเนื่องจากไม่แน่ใจว่าคนอื่นดูอยู่หรือไม่ จึงควรเลี่ยงไปมีสวนหลังบ้านหรือข้างบ้านดีกว่า
ประหยัด คำ ๆ นี้แหละเป็นปัจจัยที่ปฏิเสธไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าควรเป็นบ้านราคาถูก ประหยัดในที่นี้คือระยะเวลาการใช้งาน ควรยาวนานด้วยวัสดุก่อสร้างที่มีคุณภาพ ดูแลรักษาง่ายเพื่อความสวยงาม มั่นคง ปลอดภัย ประเด็นที่ไม่ควรมองข้ามคือการวางถึงขยะและถังแก๊ส ไม่ควรต้องให้ผ่านส่วนอื่น ๆ ในบ้านมาก
เมื่อพิจารณาครบทั้ง 5 ข้อแล้ว แบบบ้านที่คุณหมายตามีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด ก็ปักใจเลือกซื้อได้เลย แต่คุณก็ต้องไม่ลืมในปัจจัยเกี่ยวกับการซื้อบ้านอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นทำเล ชื่อเสียงของผู้ประกอบการ ราคา เป็นต้น