สาเหตุของปัญหาหลังคารั่วซึมส่วนใหญ่มักเกิดมาจากการเสื่อมสภาพของวัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ในการมุงหลังคา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพอากาศที่รุนแรง ทั้งแดดร้อนและฝนตกหนัก ก็ยิ่งทำให้วัสดุและอุปกรณ์เหล่านั้นมีอายุการใช้งานที่สั้นลง นอกจากนี้ขั้นตอนการมุงหลังคาที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไมถูกวิธีก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหารั่วซึมได้เช่นกัน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นบ้านเก่าหรือบ้านใหม่ก็มีสิทธิ์พบเจอกับปัญหาหลังคารั่วซึมได้พอๆ กัน หลังคาบ้านของคุณมีอายุการใช้งานนานกว่า 15 - 20 ปีแล้ว ให้เปลี่ยนหลังคาใหม่ได้เลยทันที เพราะหลังคาอาจเก่าเกินกำลังที่ซ่อมแซมได้แล้ว ทั้งนี้การเปลี่ยนหลังคาใหม่นอกจากจะช่วยให้บ้านของคุณดูดีขึ้นแล้ว ยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องบ้านของคุณจากสภาพอากาศต่าง ๆ ได้ด้วย หลังจากทราบวิธีตรวจเช็กหลังคาแล้ว อย่าลืมไปสังเกตหลังคาบ้านของคุณกันด้วย
1.หลังคารั่วจากโครงสร้างหลังคาแอ่นตัวหรือผุ การแอ่นหรือยุบตัวของหลังคามักจะเกิดจากการผุของโครงหลังคา ทำให้แผ่นกระเบื้องที่เคยเรียงตัวกันสนิทเผยอหรือกระเดิดขึ้นมา ส่งผลให้เมื่อมีฝนตกและลมแรง ก็จะเกิดน้ำไหลย้อนเข้าไปยังใต้หลังคา ช่องรั่วแบบนี้สามารถสังเกตตรวจสอบได้ง่ายๆ ในเวลากลางวันด้วยการมองหาช่องว่างที่แสงสามารถผ่านเข้ามายังใต้หลังคา แต่ถ้าหากหลังคามีการติดตั้งแผ่นฟอยล์สะท้อนความร้อนบังอยู่ ก็จำเป็นต้องตรวจสอบจากภายนอกโดยใช้บันไดปีนขึ้นไปเพื่อไล่ดูแนวขอบกระเบื้องไปทีละแถว เมื่อพบว่ามีกระเบื้องบริเวณใดยุบตัวลงก็ให้สังเกตหาสาเหตุของการยุบตัวซึ่งอาจจะเป็นที่ โครงหลังคาเหล็กถูกสนิมกินจน ผุ หรือโครงหลังคาไม้ถูกแมลงกินจนไม่สามารถรับน้ำหนักได้
สำหรับโครงหลังคาเหล็กที่เป็นสนิมสามารถแก้ไขด้วยการ ขัดสนิมออก ทาน้ำยาหยุดสนิมในบริเวณที่เกิดสนิม ใช้ค้ำยันดันเพื่อปรับระดับหลังคา จากนั้นซ่อมแซมด้วยการใช้แผ่นเหล็กหนาประมาณ 2-3 มิลลิเมตรประกบซ้าย-ขวา และเชื่อมให้เต็มรอยแผลประกบ
สำหรับโครงหลังคาไม้ก็ใช้วิธีการคล้ายๆ กันแต่ให้ตัดแปไม้ส่วนที่โดนแมลงเจาะทิ้งไป จากนั้นใช้แปไม้ขนาดเดียวกันประกบทั้ง 2 ด้านและยึดด้วยนอต-สกรู จากนั้นก็ทาด้วยน้ำยากันปลวกทับโดยรอบ
2.หลังคารั่วจากบริเวณครอบสันหลังคา สาเหตุของการรั่วซึมบริเวณครอบสันหลังคามักจะเกิดกับครอบสันหลังคาที่ใช้ปูนอุดใต้ครอบสันหลังคา เมื่อใช้งานไปปูนเหล่านี้มักจะแตกหรือหลุดล่อนเนื่องจากการยืดหดตัวของวัสดุซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ เป็นสาเหตุให้น้ำฝนสามารถรั่วซึมเข้าไปภายในได้
การแก้ไขทำได้ด้วยการใช้ปูนประเภทนอน-ชริงค์อุดรอยแตกร้าวให้เรียบร้อย และเคลือบทับด้วยน้ำยาเคมีภัณฑ์ประเภท อะคริลิกกันซึมชนิดยืดหยุ่น เพื่อเป็นฟิล์มกันน้ำอีกชั้น หลังจากนั้นก็ทาทับด้วยสีทากระเบื้องหลังคาเพื่อให้ดูเรียบร้อย
3.หลังคารั่วจากบริเวณ รางรับน้ำตะเข้ ทำหน้าที่รับน้ำบริเวณรอยต่อหลังคา (ไม่ใช่รางรับน้ำบริเวณชายคา) ซึ่งการรั่วซึมอาจเกิดจากเนื้อสังกะสีผุกร่อนไปตามกาลเวลา ยิ่งหากเป็นบ้านที่ตั้งอยู่ริมทะเลก็จะยิ่งผุเร็วขึ้น หรืออาจเกิดจากระยะของปีกรางสั้นเกินไปทำให้เมื่อฝนตกหนักและลมแรงก็จะทำให้น้ำไหลย้อยเข้าไปได้
หากรางน้ำผุแก้ไขได้ด้วยการเปลี่ยนรางน้ำใหม่เป็นรางน้ำสำเร็จรูปซึ่งมีขายอยู่ตามท้องตลาด หรือใช้สังกะสีเบอร์ 28 ทาด้วยสีกันสนิม 2 รอบ หรือแผ่นสแตนเลส พับขึ้นรูปเป็นรางน้ำก็ได้
หากระยะของปีกรางสั้นเกินไปก็ให้เปลี่ยนใหม่ โดยรางควรมีความกว้างไม่น้อยกว่า 20 เซนติเมตร ลึกไม่น้อยกว่า 5 เซนติเมตร และมีส่วนของปีกรางยื่นลึกเข้าไปใต้กระเบื้องข้างละไม่น้อยกว่า 20 เซนติเมตร
4.หลังคารั่วจากการติดตั้งเสาอากาศทีวีบนหลังคา สาเหตุมักจะเกิดจากความต้องการติดตั้งเสาอากาศทีวีให้สูงๆ จึงจำเป็นต้องใช้ลวดสลิงในการรับแรง 3-4 ด้านเพื่อต้านกระแสลม แต่ละเส้นจะโยงจากเสาอากาศมาเกี่ยวกับชายกระเบื้อง ซึ่งหากมุงกระเบื้องไว้ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ขันสกรูหรือผูกลวดยึดกระเบื้องไว้กับแป เมื่อเกิดลมพัดแรง ก็จะทำให้ชายกระเบื้องเผยอและเกิดการรั่วซึม วิธีแก้ไขคือต้องปลดลวดสลิงและลดเสาอากาศลง จากนั้นจึงจัดแนวกระเบื้องใหม่ยึดกระเบื้องไว้กับแปด้วยสกรูหรือลวด จากนั้นจึงค่อยตั้งเสาอากาศและยึดด้วยลวดสลิงอีกครั้ง
แต่ต้องทำด้วยความระมัดระวังคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก ในบางครั้งอาจจำเป็นต้องตั้งนั่งร้านเพื่อทำการซ่อมแซมก็อย่าเสียดายแม้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นก็ตาม เพราะถือว่าเป็นการป้องกันไว้ดีกว่าแก้ครับ เรื่องของการปรับปรุงหลังคายังไม่จบนะครับติดตามเรื่องราวของการซ่อมบำรุงหลังคาต่อได้ที่นี่ในไม่ช้าครับ
หากเป็นหลังคาแบบกระเบื้องจะมีอายุการใช้งานค่อนข้างนาน แต่อาจต้องหมั่นตรวจสอบรอยแตกร้าวกันสักหน่อย สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลบ้านอาจใช้หลังคาแบบเมทัลชีทหรือคอนกรีต เพราะไม่จำเป็นต้องดูแลรักษามาก และมีอายุการใช้งานนานกว่าสองแบบแรก
ทีนี้เราลองมาดูกันว่าปัจจัยที่ทำให้คุณควรเปลี่ยนหลังคา มีอะไรบ้าง
http://www.youtube.com/watch?v=V2Oqdm5PtfQ
2. ในกรณีที่พบว่าหลังคามีรอยน้ำรั่ว หรือมีรูเล็ก ๆ ที่แสงสามารถส่องผ่านลงมายังภายในบ้านของคุณได้ หรือสีผิดปกติไปจากสีเดิมของวัสดุ
4. พบเห็นรอยแตกร้าว มีรอยเลื่อนบนหลังคา หรือมชิ้นส่วนในการประกอบหลังคาหายไป
5. พบชิ้นส่วนที่ใช้ในการประกอบหลังคาตกหล่น อยู่ในท่อน้ำ ช่องลม หรือบริเวณอื่น ๆ ของบ้าน
6. มีเศษซากของหลังคาบางส่วนตกหล่นลงมา หรือมีบางส่วนของหลังคาหลุดลอกออกมา
7. หมั่นสังเกตรอยด่างดำ เศษซากสกปรกต่าง ๆ เพราะนั่นแสดงว่าหลังคาของคุณเกิดรอยรั่วที่ทำให้น้ำสามารถแทรกซึมเข้าไปได้ สิ่งที่มากับน้ำนอกจากความชื้นแล้วคือ เชื้อรา แบคทีเรีย และไวรัสต่าง ๆ ที่สามารถก่อตัวได้ภายใน 24 - 48 ชั่วโมงเท่านั้น
8. ตรวจสอบระบบการระบายน้ำของหลังคา ว่าทางระบายน้ำอยู่สภาพปกติหรือไม่ เพราะเศษซากแตกหักของทางระบายน้ำ อาจทำให้หลังคาเกิดรอยแตกหัก หรือรอยรั่วได้
เรียบเรียงข้อมูลเพิ่มเติมโดย manman